เราทำบล็อกนี้ขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ลัทธิใหม่ : ศิลปะคืนเดียว กับเส้นทางการเดินของมานะ พิมพ์ชัย

ลัทธิใหม่ : ศิลปะคืนเดียว กับเส้นทางการเดินของมานะ พิมพ์ชัย
… หลายคนเคยกล่าวไว้ว่าผู้ที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานต้องมีองค์ประกอบที่จะเป็นเครื่องกระตุ้นและขับเคลื่อนไป ในที่นี่ข้อยกตัวอย่าง 3ค.เป็นหลักของผม คือ ความอยาก ความชอบ ความขยัน ในฐานะที่ผมเป็นนักเรียนศิลปะ การสร้างงานศิลปะไม่ได้สร้างแค่ทิ้งขว้างหรือเพียงผ่านๆ แค่ส่งอาจารย์เท่านั้นแต่หากจะสร้างงานเพื่อให้ผู้อื่นรับรู้ว่าผลงานแนวนี้เป็นของใคร ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณไม่มีความยากไม่มีความฝัน แล้วคุณจะเดินบนเส้นทางที่เรียกว่า ศิลปะได้อย่างไร…
ศิลปะคืนเดียวเกิดจากความชอบ หรือเพียงแค่เอาคะแนน?
ผมลองนั่งทบทวนหลายครั้งว่าผมคือนักเรียนศิลปะ ชอบดูงานศิลปะ และก็มีความฝันว่าอยากเป็นศิลปิน ผมสอบเข้าคณะศิลปกรรมศาสตร์สาขาทัศนศิลป์ก็เพราะความชอบและอยากลองศึกษา แต่เมื่อเลาเริ่มหมุนเวียนไป ผมเป็นนักเรียนศิลปะปี1 สิ่งที่ฝันเริ่มต้นไว้ไม่ง่ายเลย การทำงานศิลปะเริ่มมีปัญหาเมื่อวิชาเรียนไม่ได้สอนเพียงแค่วาดรูป แต่ยังมีอีกหลายวิชาที่มาเกี่ยวเนื่องกัน หลายคนอาจบอกว่าคำไม่มีเวลาเป็นข้ออ้างอาจจะจริงสำหรับบางคน แต่สำหรับบางคนคงเป็นเรื่องจริง เมื่องานที่อาจารย์สั่งเริ่มมากขึ้น กับกลายเป็นว่าผมต้องทำงานเอาคะแนน แต่ไม่ได้สร้างงานที่เกิดจากความชอบ แต่หรือไว้เพียงความขยัน
เมื่อทุกอย่างไม่เป็นตามแผนผมก็ต้องทำงานเอาคะแนนมากกว่าวิชานั้นบ้างวิชานี้บ้าง ส่วนความอยากไม่ต้องพูดถึงน้อยนิดเหลือเกินสำหรับผม เมื่อวันเวลายังคงเป็นแบบนี้เรื่อยๆ จนเกิดเป็นความเบื่อหน่าย เมื่อผมก้าวขึ้นปีสองผมนึกว่าจะดีขึ้น กับมองเห็นอีกว่ามีหลายคนที่เกิดภาวะเดียวกันกับผม เราจึงเรียกวิธีระบายสิ่งนั้นออกแต่ไม่ใช่การวาดรูปแต่เป็นการดื่มสุรา จากนั้นการทำงานก็เริ่มเปลี่ยนไปผมกับเพื่อนจะมาทำงานตอนกลางคืนที่คณะ ที่เขาว่านั้นล่ะครับ “ ศิลปินตะวันตก ” ก็รอให้พระอาทิตย์ตกดินสะก่อนผมถึงมาทำงานได้ ผมจะทำงานก่อนหน้าที่จะตรวจงา1-2วัน จะต้องเคลียร์วิชาอื่นให้เสร็จก่อน ผมไม่ได้อวดว่าตนเก่งหรอกแต่ผมมีการน หากบางครั้งทำงานเสร็จทันก็ดี อาจทำงานออกมาไม่ดี แต่ก็ยังมีข้อดีอีกมากมายที่ทำงานศิลปะตอนกลางคืน ก็อยู่ที่ว่ามีรุ่นพี่และเพื่อนอีกหลายกลุ่มมาทำงาน มีการลองเทคนิคที่น่าสนใจหลายอย่างจนบางครั้งผมก็ลืมไปว่าตัวเองก็มีงานต้องทำ
การใช้เวลากับวันว่างๆก่อนทำงานศิลปะคืนเดียวคับปม
การทำงานหากทำงานมากเกินไป เราก็ต้องพักผ่อน แล้วเมื่อหายเหนื่อยจึงค่อยกับมาทำงานใหม่จนตอนนี้ผมเกิดสภาวะที่เรียกว่า เซ็ง และไม่ได้มีแค่คนเดียวแต่ยังมีอีกหลายคนที่เป็นเช่นนี้ บางครั้งผมวาดรูปก็มีขวดเบียร์วางข้างเฟรมเหมือนเป็นเครื่องเตือนใจ เที่ยวพลับนั่งฉิวๆกับเพื่อน ร้องเพลง ดูหนัง และเล่นเกมส์ ทำทุกอย่างที่เขาเรียกว่าไร้สาระ กิจกรรมเหล่านี้ค่อยๆเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นภาวะไอ้บ้านี้ก็ดันเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน เพราะเพื่อนผมดันเกิดคนละวันรวมไปมาก็เกือบอาทิตย์แถบจะครบทุกวัน จึงทำให้ไม่มีเวลาทำงานและกว่าจะไปหาข้อมูลและลงพื้นที่ จึงต้องทำงานก่อนวันที่จะส่ง หากผมจะทำงานศิลปะที่ชอบผมจะยึดเอาเวลาก่อนหน้าที่จะตรวจงานเพียงวันเดียว มันเป็นการกระตุ้นและเป็นแรงให้ผม หลายคนอาจบอกว่าเป็นวิธีที่บ้า หากถามว่าแล้วงานเสร็จสมบูรณ์ไหม มันคงม่สมบูรณ์แต่ก็ได้ทำงานที่ถือว่าดีในระดับหนึ่ง
ผมแบ่งเกณฑ์สปิริตไว้สองส่วนในการทำงานศิลปะเพียงคืนเดียว คือต้องทำให้ได้70%อีก30%จะเก็บวันละนิดเพราะจะทำให้ผมห่างจากงานแล้วไม่ทำเลย แต่ถามว่าคนที่ทำงานทั้งวันทั้งคืนน่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีและทำตามถึงจะประสบความสำเร็จ อันนั้นผมเห็นด้วยแต่คงบอกว่าไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะงานศิลปะที่แท้จริงก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความขยัน แต่เพราะเกิดความเข้าใจในตัวงานศิลปะที่ทำต่างหาก การทำงานศิลปะบางชิ้นก็อาจเอาเวลามาวัด แต่ศิลปะบางชิ้นดูจากงานก็ค่อนข้างแสดงความรู้สึกออกมาได้ชัดเจน คนที่พยายามหาเหตุผลมาอ้างอย่างผมรู้ตัวดีผมถึงยอมรับและทำเวลาที่ตนเองเลือกเดินอย่าได้ผันแปรอีกเพราะตอนนี้เวลาที่วางไว้ก็ทำให้ผมผ่านมาได้จนทุกวันนี้

การทำงานศิลปะที่มีแนวช่วยคนง่ายๆได้เยอะ!
“แนว” นั้นคือสิ่งที่หลายคนบอกว่าทุกคนต้องมีทิศทางในการเดิน และบ่งบอกถึงสิ่งทีแสดงออกและทำให้ผู้อื่นรับรู้ได้ว่านี้คืองานศิลปะของใคร โดยที่เราไม่ต้องเขียนชื่อบอกเขา เพื่อจะให้ได้งานศิลปะดีๆเราจึงต้องมีการหาข้อมูลที่เป็นสถานที่จริงที่เราปะทะทางอารมณ์ทำให้เกิดความสะเทือนใจ การความรู้สึกพิเศษ และศึกษาหาเทคนิคมาช่วยเพราะถ้ารอแต่ฝีมือที่ไร้ความขยัน ไม่มีอารมณ์อยู่นั้นฝันที่วาดคงไม่สำเร็จ เทคนิควิธีการจึงเป็นตัวช่วยที่ดี ผมออกไปหาข้อมูลต่างๆเพื่อที่จะนำกับมา และในขณะเดียวกันก็ไปหาแรงผลักดันความอยากจากเวทีการประกวดต่างๆเช่นเดียวกัน ในห้องเรียนแรงกระตุ้นมีก็แค่ตอนอาจารย์แนะนำเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปแป๊บเดียวสิ่งเหล่านั้นก็หายไป เวทีประกวดศิลปะจึงเป็นแรงได้ดี โดยเฉพาะปัจจัยที่เรียกว่าเงิน ซึ่งที่เป็นแรงดึงดูดที่สำคัญ จึงจะเกิด3ค ได้ เราจึงต้องมีการทำงานที่ดีและแปลกใหม่และสิ่งที่จะทำให้งานมีประสิทธิภาพได้นั้นคือ คำวิจารณ์หรือคำแนะนำของอาจารย์ เราควรที่จะมีตริวเตอร์ ซึ่งอาจารย์ก็พร้อมจะเป็นที่ปรึกษาและคอยแนะนำให้เรารู้จักทำงาน วางแผนไปด้วยกันเพื่อให้นักเรียนของตนได้ประสบความสำเร็จ
ผลงานศิลปะกับลัทธิใหม่ศิลปะคืนเดียวที่ไม่ธรรมดา
งานศิลปะเหล่านี้คืองานที่ผมสร้างขึ้นภายในคืนเดียว และถือเป็นพยานถึงความตั้งใจถึงจะเป็นเพียงข้ามคืนแต่งานชุดนี้ก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตได้ดี



สำหรับแนวคิดในผลงานชุดนี้คือ
วิถีชีวิตชนบทอีสาน ถูกบีบรัด ผูกติดอยู่กับภาระทางครอบครัว การดำรงชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ชีวิตคนชั้นแรงงานเป็นภาพที่ข้าพเจ้าพเห็นบ่อยครั้ง ก่อเกิดแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์ผลงานชุดนี้ขึ้น
อย่างไรก็ตามลัทธิศิลปะคืนเดียวต้องขึ้นอยู่กับตัวของผู้สร้างงานศิลปะด้วยว่าตนมีความพร้อมมากน้อยเพียงใด ผมไม่ได้พูดให้ตัวเองดูดีแต่หากจะเลือกที่จะเป็นศิลปินตะวันตกย่อมไม่เป็นผลดีแน่ แต่คนที่พูดหรืออวดนั้นเขาทำได้จริงๆ ดังนั้นอย่างที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับผมทั้งหมดเห็นแล้วใช่ไหมว่าเป็นยังไง คุณจะเลือกที่จะต่อสู้กับภาวะบ้าๆหรือจะยอมจมดิ่งกับมัน ที่เป็นเรื่องราวไม่ค่อยดีการเป็นศิลปินผู้เสกสร้างงานศิลปะคุณเองต่างหากที่จะเป็นผู้ลิขิต ไม่ใช่สิ่งแวดล้อมบีบคุณ จึงจำเป็นต้องมีหลักการยึดถือและปฏิบัติตามเพื่ออนาคต และเป็นสะแห่งพานความสำเร็จ
บทความนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้นหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
นางสาว หทัยชนก บุญมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น