เราทำบล็อกนี้ขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

สมุนไพรต้านมะเร็ง

สมุนไพรต้านมะเร็ง
โดย พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ, ภัทราพร ตั้งสุขฤทัย




              

                จากข้อสรุปที่ว่าร่างกายของคนเรามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ถ้าร่างกายเรามีภูมิต้านทานที่ดีมีความสมบูรณ์ แข็งแรง ก็จะสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทำลายด้วยวิธีต่างๆ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อมะเร็ง ได้แก่ การกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง อาหารมีสารพิษ ไม่สะอาด มีสารก่อมะเร็ง การไม่ออกกำลังกาย ความเครียด การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารพิษรอบๆ แล้ว ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทั้งนั้น ดังนั้นการป้องกันการเกิดมะเร็งที่ดี คือ การมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารที่เน้นเป็นอาหารธรรมชาติ เส้นใย (fiber) สูง เช่น ผักพื้นบ้านที่อุดมไปด้วย วิตามิน เอ อี ซี สูง เช่น ผักใบเขียว กระเทียม หัวหอม ข่า  กระเทียม โหระพา ตำลึง มะระ ฯลฯ
 ตามที่มีข่าวลงในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 15 ธันวาคม 2543 เกี่ยวกับเครื่องปรุงในต้มยำกุ้งป้องกันการเกิดมะเร็งนั้น ในสูตรของต้มยำกุ้ง ประกอบด้วยเครื่องปรุงหลักที่เป็นสมุนไพร ดังนี้

 1. ข่า 2.ตะไคร้ 3.ใบมะกรูด 4.พริก 5. มะนาว

                ตามตำราการแพทย์แผนไทยพบว่า ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก มีรสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณตามตำรายาไทยช่วยขับลม ช่วยย่อย แก้ปวดท้อง ช่วยเจริญอาหาร และมีวิตามินซี ช่วยบำรุงร่างกาย กระดูกและฟัน
จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์พบว่า
เหง้าข่า     มีน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ methyl cinnamate 48 % ,cincol 20-30 % น้ำมันหอมระเหยจากเหง้าข่ามีฤทธิ์ขับลมต้านเชื้อแบคทีเรีย และมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา นอกจากนี้ยังไม่พบพิษเฉียบพลันและพิษเรื้อรัง และไม่มีฤทธิ์ก่อสารกลายพันธุ์
ตะไคร้   ใบและลำต้นประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยและสารประกอบที่สำคัญ ได้แก่  citral 65-85%, myrcene, citronellal, geraniol , menthol , citxonellol, engenol  มีฤทธิ์ขับลม ลดการบีบตัวของลำไส้ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด
พริก  มีสารสำคัญคือ มีวิตามินซีสูง มีสารที่มีฤทธิ์เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์แต่ในขณะเดียวกันสารแคบไซซินในพริกจะทำให้เกิดการระคายเคือง ไม่ควรใช้ในปริมาณมาก โดยเฉพาะรายที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
ใบมะกรูด  มีน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ช่วยขับลมในลำไส้
มะนาว   ผิวเปลือกมีสารสำคัญเป็นน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ส่วนน้ำมะนาวมีสาร slaronoid , oranic  acid , citral และวิตามินซี ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด ขับเสมหะ แก้ไอ

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าในเครื่องปรุงต้มยำซึ่งเป็นอาหารไทยที่บรรพบุรุษได้ใช้กันมาอย่างยาวนานจนกระทั่งปัจจุบันไม่พบความเป็นพิษอีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยาไทยช่วยขับลม ช่วยย่อย แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ เจริญอาหาร และที่สำคัญเครื่องปรุงเหล่านี้มีเส้นใยอาหารมาก จะช่วยดูดซับสารพิษในลำไส้ระบบทางเดินอาหารและขับถ่ายของเสียได้ดี นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนว่าสมุนไพรแต่ละชนิดที่นำมาปรุงในต้มยำมีสารสำคัญช่วยยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ และยังมีรายงานยืนยันว่าไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์



                นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรที่เป็นอาหารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งและมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์  ได้แก่
สมุนไพรต้านมะเร็ง
โดย พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ, ภัทราพร ตั้งสุขฤทัย




              

                จากข้อสรุปที่ว่าร่างกายของคนเรามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ถ้าร่างกายเรามีภูมิต้านทานที่ดีมีความสมบูรณ์ แข็งแรง ก็จะสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทำลายด้วยวิธีต่างๆ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อมะเร็ง ได้แก่ การกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง อาหารมีสารพิษ ไม่สะอาด มีสารก่อมะเร็ง การไม่ออกกำลังกาย ความเครียด การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารพิษรอบๆ แล้ว ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทั้งนั้น ดังนั้นการป้องกันการเกิดมะเร็งที่ดี คือ การมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารที่เน้นเป็นอาหารธรรมชาติ เส้นใย (fiber) สูง เช่น ผักพื้นบ้านที่อุดมไปด้วย วิตามิน เอ อี ซี สูง เช่น ผักใบเขียว กระเทียม หัวหอม ข่า  กระเทียม โหระพา ตำลึง มะระ ฯลฯ
 ตามที่มีข่าวลงในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 15 ธันวาคม 2543 เกี่ยวกับเครื่องปรุงในต้มยำกุ้งป้องกันการเกิดมะเร็งนั้น ในสูตรของต้มยำกุ้ง ประกอบด้วยเครื่องปรุงหลักที่เป็นสมุนไพร ดังนี้

 1. ข่า 2.ตะไคร้ 3.ใบมะกรูด 4.พริก 5. มะนาว

                ตามตำราการแพทย์แผนไทยพบว่า ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก มีรสเผ็ดร้อน มีสรรพคุณตามตำรายาไทยช่วยขับลม ช่วยย่อย แก้ปวดท้อง ช่วยเจริญอาหาร และมีวิตามินซี ช่วยบำรุงร่างกาย กระดูกและฟัน
จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์พบว่า
เหง้าข่า     มีน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ methyl cinnamate 48 % ,cincol 20-30 % น้ำมันหอมระเหยจากเหง้าข่ามีฤทธิ์ขับลมต้านเชื้อแบคทีเรีย และมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา นอกจากนี้ยังไม่พบพิษเฉียบพลันและพิษเรื้อรัง และไม่มีฤทธิ์ก่อสารกลายพันธุ์
ตะไคร้   ใบและลำต้นประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยและสารประกอบที่สำคัญ ได้แก่  citral 65-85%, myrcene, citronellal, geraniol , menthol , citxonellol, engenol  มีฤทธิ์ขับลม ลดการบีบตัวของลำไส้ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด
พริก  มีสารสำคัญคือ มีวิตามินซีสูง มีสารที่มีฤทธิ์เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์แต่ในขณะเดียวกันสารแคบไซซินในพริกจะทำให้เกิดการระคายเคือง ไม่ควรใช้ในปริมาณมาก โดยเฉพาะรายที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
ใบมะกรูด  มีน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ช่วยขับลมในลำไส้
มะนาว   ผิวเปลือกมีสารสำคัญเป็นน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ส่วนน้ำมะนาวมีสาร slaronoid , oranic  acid , citral และวิตามินซี ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด ขับเสมหะ แก้ไอ

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าในเครื่องปรุงต้มยำซึ่งเป็นอาหารไทยที่บรรพบุรุษได้ใช้กันมาอย่างยาวนานจนกระทั่งปัจจุบันไม่พบความเป็นพิษอีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยาไทยช่วยขับลม ช่วยย่อย แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ เจริญอาหาร และที่สำคัญเครื่องปรุงเหล่านี้มีเส้นใยอาหารมาก จะช่วยดูดซับสารพิษในลำไส้ระบบทางเดินอาหารและขับถ่ายของเสียได้ดี นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนว่าสมุนไพรแต่ละชนิดที่นำมาปรุงในต้มยำมีสารสำคัญช่วยยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้ และยังมีรายงานยืนยันว่าไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์



                นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรที่เป็นอาหารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งและมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์  ได้แก่
กุยช่าย                    มะแว้งเครือ                            มะแว้งต้น                               ขมิ้นชัน
มังคุด                      หอมแดง                                กะเพรา                                  โหระพา
กระเทียม                งา                                           ขนุน                                      ชะเอม
ดีปลี                       ขมิ้นอ้อย                                มะนาว                                    ตำลึง
ถั่วลิสง                    ขิง                                          ตะไคร้                                    น้ำเต้า
พริก                        ผักกาดน้ำ                              มะขามป้อม                             สะเดา
พลู                          มะเขือพวง                             แมงลัก                                    ฟักทอง
มะละกอ                  มะม่วงสุก                              ฟักข้าว                                    มะปราง
มะกรูด                    มะอึก                                     มะขามเทศ                             ว่านหางจระเข้
มะเขือยาว               ส้มเขียวหวาน                         มะระขี้นก                               องุ่น



สมุนไพรไทยที่มีการวิจัยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง
สมุนไพรไทยที่มีการทดลองในหลอดทดลองมีหลายชนิด ได้แก่
บวบขม                                  ขันทองพยาบาท                                    จำปีป่า
ปลาไหลเผือก                        ดองดึง                                                   ทองพันชั่ง
เจตมูลเพลิงแดง                      เจตมูลเพลิงขาว                                      ราชดัด
ฝาง                                        โทงเทง                                                  แสมสาร
จำปา                                      ขมิ้นต้น                                                 ฟ้าทะลายโจร
ปรู่                                          กระเทียม                                               ประยงค์
พลับพลึง                                รงทอง                                                   ข่อย
แพงพวยฝรั่ง                           สมอไทย                                                หญ้าปีกไก่ดำ
แกแล                                      กะเม็ง                                                    เครือเถาวัลย์
ทับทิม                                    มังคุด                                                     โล่ติ๊น
ไพล                                       จำปีหลวง                                               สีเสียด
สมอพิเภก                               ข้าวเย็นเหนือ                                         ลิ้นงูเห่า
ไฟเดือนห้า                            

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น